การปรับแต่งและการแฮ็ก (Modifications and hacks) ของ แอปเปิลทีวี

คุณสามารถบอกรุ่นของเครื่องแอปเปิลทีวีของคุณ โดยไปยัง Setting ของแอปเปิลทีวี แล้วเลือก General และ About แล้วจะนำทำการค้นหาจากเว็บสำหรับรุ่นที่แอปเปิลที่แสดง ตัวอย่างเช่น เครื่องของคุณมีรุ่นเป็น MC572LL/A, เมื่อทำการค้นหาจะเป็น แอปเปิลทีวีรุ่นที่ 2

คุณจำเป็นที่จะต้องทราบรุ่นของแอปเปิลทีวีของคุณก่อนที่จะทำกระบวนการการแก้ไขปรับปรุง การปรับปรุงไม่สามารถทำได้ในบางรุ่น และแอปเปิลทีวีรุ่นที่ 3 ไม่สามารถเจลเบรกได้

รุ่นที่ 1 (1st generation)

ระหว่างวันเปิดตัวของแอปเปิลทีวีรุ่นที่ 1 ได้เกิดการแฮ็กที่เป็นทางพาณิชย์ และไม่ทางพาณิชย์ขึ้น การแฮ็กอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปเปิลทีวีระยะไกล และเพิ่มความสามารถในการสนับสนุนการเข้ารหัส (codecs) อื่น ๆ, การติดตั้ง Mac OS X Tiger ฉบับเต็ม, ใช้งานฮาร์ดไดร์ฟผ่านทาง USB, ใช้งานเพื่อการท่องเว็บ, ใช้รีโมทคอนโทรที่ไม่ใช่ของแอปเปิล, และการดาวโหลดเมตาดาต้า (metadata) จาก IMDb[24][84] ในกลางปี พ.ศ. 2552, Fire Core ได้ปล่อยซอร์ฟแวร์ aTV Flash เพื่อให้แอปเปิลทีวีสนับสนุนสื่อในฟอร์แมทอื่น, เว็บเบราว์เซอร์, การสนับสนุน USB ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก, และอื่น ๆ[85] ในฟรีและโอเพนซอร์สรายอื่นอย่าง atvusb-creator ได้ให้ทำเหมือน ๆ กันโดยสามารถใช้ตัวเชื่อมกับกราฟฟิคพื้นฐานบน Mac และ Windows

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2554 แอปเปิลไม่ได้ปกป้องการทำการปรับปรุงโดยผู้ใช้แอปเปิลทีวี แต่เตือนว่าการทำการแฮ็กจะมีผลให้การประกันสิ้นสุดลง[86]

การติดตั้งอัปเดตสำหรับระบบแอปเปิลทีวีโดยปกติจะทำการกำจัดซอฟต์แวร์แฮ็กออก แต่แอปเปิลทีวีที่ถูกแฮ็กส่วนมากจะทำการอัฟเดตได้ปกติ[87]

ปลั๊กอินส่วนมากในฟรอนท์โรล มีส่วนน้อย และไม่ค่อยได้ทำการอัปเดตให้ทำงานกับแอปเปิลทีวีที่ทำงานบน iOS 2.x AwkwardTV รายงานว่ามี 10 ปลั๊กอินจาก 32 ปลั๊กอินที่ได้รับเครื่องหมายการใช้ได้ด้วย "Take Two" อัปเดต[88]

ความนิยมในการปรับแต่ง รวมถึงการเปลี่ยน ส่วนติดต่อผู้ใช้ฟรอนท์โรลในแอปเปิลทีวีด้วยซอร์ฟแวร์ media center ตัวอื่น รวมถึง Plex, XBMC Media Center และ Boxee[24][89] จนถึง Boxee ติดตั้งปลั๊กอิน Netflix Watch Instantly, ซึ่งแอปเปิลทีวีไม่สามารถทำการประมวลผลได้เพียงพอกับการใช้งาน Silverlight framework ที่ปลั๊กอิน Netflix ใช้งานอยู่[90][91]

ผู้ใช้มักปรับฮาร์ดดิสก์ภายในแอปเปิลทีวีรุ่นที่ 1[92]

การแฮ็กฮาร์ดแวร์ทำให้แอปเปิลทีวีรุ่น 1 สามารถส่งเอาท์พุดที่เป็นสีไปยัง composite video[93] สำหรับเฟิร์มแวร์ (firmware) version 3.0 ส่วน เฟิร์มแวร์ 2.x hack เป็นการเรียกเคอร์เนล (kernel) ที่เรียกว่า TVComposite.kext

True 1080p playback และ เอาต์พุตท์ video สามารถเปิดใช้งานบนแอปเปิลทีวีรุ่น 1 โดยการติดตั้ง installing a Broadcom CrystalHD PCI-e card และ version 10.0 (Dharma) และในตอนหลัง XBMC ทำงานบน Linux แทนที่จะทำงานบน Mac OS X 10.4.x ที่เป็นระบบปฏิบัติการพื้นฐาน ซึ่งได้เริ่มต้นตั้งแต่ มิถุนายน พ.ศ. 2553 โดยผู้สร้างชื่อ Sam Nazarko ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 นั้น Nazarko ได้ออกส่วนติดตั้ง GUI สำหรับ Linux และ Windows แพลตฟอร์มที่ทำให้สามารถทำการติดตั้งได้อย่างรวดเร็วสำหรับ Minimal[ต้องการอ้างอิง] distribution ใน distribution ได้เสนอ การสนับสนุน PVR และ AirPlay และยังคงมีการอัปเดตอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน[94]

AirPlay video และ photo streaming สามารถทำได้ในแอปเปิลทีวีรุ่น 1 โดยการติดตั้ง Remote HD plugin, Plex หรือ XBMC Media Center[ต้องการอ้างอิง]

รุ่นที่ 2 (2nd generation)

แอปเปิลทีวี รุ่นที่ 2 เป็นครั้งแรกที่มีระบบปฏิบัติการที่มาจาก iOS

นักพัฒนาที่ได้ประยุกต์ใช้ iOS jailbreaking ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ทางแอปเปิลไม่อนุมัติ อาจทำให้การประกันสิ้นสุดลงเมื่อถูกติดตั้งในแอปเปิลทีวี การติดตั้งสามารถทำได้โดยดาวน์โหลดแอปเปิลทีวีเฟิร์มแวร์จากเซิร์ฟเวอร์ของแอปเปิล แล้วใช้คัสตอมเฟิร์มแวร์อย่าง Seas0nPass[95] หรือ PwnageTool[96] เพื่อทำการสร้างอัสตอมเฟิร์มแวร์ ผู้ใช้จะติดต่อแอปเปิลทีวีไปยัง iTunes, เปลี่ยนโหมดแอปเปิลทีวีเป็น DFU และเรียกคืน (restore) คัสตอมเฟิร์มแวร์ไปยังแอปเปิลทีวี

คัสตอมเฟิร์มแวร์จะให้การสนับสนุน SSH ไปยังอุปกรณ์ ที่ที่ผู้ใช้สามารถใช้ APT ในการติดตั้งซอร์ฟแวร์ไปยังอุปกรณ์ หรือ GUI รุ่นที่คล้ายกับ Cydia ซึ่งถูกเรียกว่า NitoTV ซึ่งได้รวมถึงไดร์เวอร์ที่ทำการเปิดการทำงานของ Build-in Bluetooth ในปัจจุบันยังมีซอร์ฟแวร์จำนวนไม่มากที่ทำงานได้บนแอปเปิลทีวี อย่างไรก็ตาในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554 กลุ่ม XBMC ได้ออกซอร์ฟแวร์เวอร์ชันแรกอย่างเป็นทางการอย่าง XBMC Media Center สำหรับอุปกรณ์รุ่นที่สอง เมื่อเร็ว ๆ นี้ Plex Media Center ที่เป็น Thin Client ได้เพิ่งเปิดตัวมา[เมื่อไร?]

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 นั้น Greenpois0n RC6 ได้ให้การทำเจลเบรกอย่างเต็มที่โดยรองรับแอปเปิลทีวีรุ่นที่ 2 บน iOS 4.2.1 ซึ่งใช้วิธีที่ง่ายกว่า Seas0nPass หรือ PwnageTool[97]

รุ่นที่ 3 (3rd generation)

แอปเปิลทีวีรุ่นที่ 3 ได้ออกมาใน เดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 เจลเบรกสำหรับแอปเปิลทีวีรุ่นที่ 3 ได้แสดงให้เห็นถึงการทำที่ยากขึ้นกว่าในเวอร์ชันก่อนหน้า อย่างไรก็ตามในเบต้าเวอร์ชัน Snow3rd อ้างว่าสามารถทำเจลเบรกแอปเปิลทีวีรุ่นที่ 3 ได้[98] แต่หลังจากทำการวิเคราะห์วีดีโอในการทำเจลเบรกคล้ายกับว่ายังไม่สามารถทำได้จริง[99] Bootrom ของแอปเปิลทีวีรุ่นนี้ ได้ถูกทำ hardened เพื่อป้องกันการเข้าใช้งานที่ผ่านทางเจลเบรกในรุ่นก่อนหน้าของแอปเปิลทีวี Bootrom-level เพื่อเข้าใช้ซึ่งจำเป็นที่จะทำการเจลเบรกและแอปเปิลทีวีได้ปิด Micro-USB พอร์ตจนกว่า port จะทำการ fully booted แม้ว่า FireCore LLC กลุ่มที่ทำงานอิสระ ซึ่งได้ทำการนำเสนอการทำเจลเบรกบนแอปเปิลทีวี การแยกตามกลุ่มการทำงาน และมีความเป็นไปได้ในการนำเสนอแอปเปิลทีวีรุ่นที่ 3 ที่ถูกเจลเบรก Plexconnect (giving Plex functionality) ในปัจจุบันสามารถมีโดยไม่จำเป็นต้องทำเจลเบรกสำหรับรุ่นที่ 2 และ รุ่นที่ 3[100][101]

รุ่นที่ 3 Rev A (3rd generation Rev A)

แอปเปิลทีวีรุ่นที่ 3 Rev ได้ถูกนำสุ่ตลาด วันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556 เหมือนกับรุ่น 3 ก่อนหน้า มันไม่มีการ bootrom เพื่อเข้า และวิธีนี้ยังไม่มีการเจลเบรกสำหรับเครื่องรุ่นนี้ยกเว้น Plexconnect (จากที่กล่าวข้างต้น)

แหล่งที่มา

WikiPedia: แอปเปิลทีวี http://www.avhub.com.au/index.php/Editor-s-Blog/So... http://9to5mac.com/2013/08/27/apple-tv-updated-wit... http://9to5mac.com/2013/12/11/apple-tv-adds-crackl... http://www.anandtech.com/mac/showdoc.aspx?i=2951 http://images.apple.com/legal/warranty/docs/cpuwar... http://docs.info.apple.com/article.html?path=iMovi... http://store.apple.com/us/tab?node=home/shop_ipod/... http://support.apple.com/kb/HT1415 http://support.apple.com/kb/HT1498 http://support.apple.com/kb/HT1555